"ภาวิช"โวหลักสูตรใหม่เจ๋งกว่าของเก่า
“ภาวิช” โวครูประถมต้นพอใจหลักสูตรใหม่ได้ผลตอบรับดีเกินคาด คาดปิดเล่มวันที่ 23 ก.ค.นี้ ระบุวิชาเรียนและชั่วโมงเรียนเกือบลงตัวแล้ว เหลือแต่ครูยังไม่ได้บริหารจัดการว่าต้องสอนวิชาอะไรใน 6 กลุ่มสาระใหม่ เล็ง 3-4 โมเดล จัดครูนำร่องหลักสูตรใหม่ในโรงเรียน 3,000 โรงก่อนปีหน้าศ.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำราการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยความคืบหน้าการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลังจากนำร่างหลักสูตรใหม่ชั้นประถมต้น (ป.1-3) ไปประชุมร่วมกับครูประถมศึกษาตอนต้น ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อเร็วๆ นี้ ว่าทางคณะทำงานได้ข้อมูลจากการแสดงความคิดเห็นของครูที่มาร่วมประชุม ซึ่งขณะนี้กำลังไปประมวลผลเพื่อปรับในบางรายละเอียด และคาดว่าในส่วนร่างหลักสูตรใหม่ชั้นประถมต้นน่าจะปิดเล่มได้ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ ในส่วนรายวิชาเรียนชั้นประถมต้นนั้น จะมี 3 วิชาหลัก ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษและภาษาไทย และ 4 วิชาบูรณาการ ได้แก่ วิชาบ้านของเราโลกของเรา วิชาเด็กในวิถีประชาธิปไตย วิชาชีวิตกับการเรียนรู้ และวิชาศิลปะและพลานามัยเพื่อชีวิต ส่วนชั่วโมงเรียนชั้นประถมต้นนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดตายตัว เพราะต้องทำรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน แต่ในหลักการกำหนดไว้ไม่เกิน 700 ชั่วโมง จากเดิม 1,000 ชั่วโมงต่อปี
ส่วนการที่ยังนำวิชาภาษาอังกฤษให้เริ่มเรียนตั้งแต่ ป.1 เหมือนเดิม ขณะที่บางประเทศ อาทิ เกาหลี ให้เริ่มเรียนชั้นประถมปลายนั้น เนื่องจากเราวิเคราะห์ข้อมูลแล้วว่าทักษะทางภาษาจะทำได้ดีแม้แต่อายุยังน้อย ประกอบกับข้อมูลของโรงเรียนอินเตอร์ทั้งหลายก็ยืนยันอย่างนั้น เราใส่ตามเดิม ส่วนการบริหารจัดการครูให้รองรับการสอนกลุ่มวิชาใหม่นั้น คิดว่าคงต้องเกิดในช่วงโครงการนำร่อง เพราะรูปแบบการจัดการครูต้องเป็นแบบคิดไปทำไป โดยในปีแรกที่จะนำร่องก่อนในโรงเรียน 3,000 โรงนั้น อาจต้องใช้รูปแบบการจัดการครูถึง 3-4 โมเดล จากนั้นค่อยมาประเมินเพื่อเลือกว่ารูปแบบใดดีที่สุดแล้วค่อยนำไปใช้ ไม่เหมือนกับหลักสูตรปัจจุบันที่ขั้นตอนการนำไปใช้ เพราะเราเรียกเพียงศึกษานิเทศก์มาอบรมแล้วไปขยายผลเองเท่านั้น แต่ตามหลักวิชาการ การนำหลักสูตรใหม่ไปใช้ไม่จบเพียงเท่านั้น
“การจัดประชุมดังกล่าวได้ผลตอบรับดีเกินคาดจากครู เพราะครูเมื่อเปิดดูรายละเอียดหลักสูตรใหม่ที่ร่างกันมาเกิดความพอใจอย่างมาก แต่ส่วนที่ยังมีคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์บางคนยังติดใจและค้านการปฏิรูปหลักสูตรนั้น ก็ไม่เป็นไร เพราะที่ผ่านมาเราก็ได้ชี้แจงผลการดำเนินงานกับ รมว.ศึกษาธิการแล้ว และวันนั้นประธานกลุ่มครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย 16 สถาบันก็เข้าร่วมชี้แจงด้วย เพราะเป็นหนึ่งในอดีตคณะกรรมการปฏิรูปฯ ดังนั้นก็รอเพียงนโยบายของ รมว.ศึกษาธิการเท่านั้น ว่าจะให้เดินหน้าต่อไปอย่างไร รวมถึงการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปฯ ใหม่ เพื่อเดินหน้าปฏิรูปต่อไป อย่างไรก็ดี คิดว่าสิ่งที่ผมและคณะกำลังดำเนินการอยู่เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว” ศ.ภาวิชกล่าว
สำหรับร่างหลักสูตรใหม่มี 6 กลุ่มสาระ ได้แก่ 1.ภาษาและวัฒนธรรม (Language and Culture) 2.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) 3.การดำรงชีวิตและโลกของงาน (Work Life) 4.ทักษะสื่อและการสื่อสาร (Media Skill and Communication) 5.สังคมและมนุษยศาสตร์ (Society and Humanity) และ 6.อาเซียน ภูมิภาคและโลก (Asean Region and World) จากปัจจุบันที่แบ่งเป็น 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น